IR
ผลงานรายวิชาอินเตอร์เน็ตและการสื่อสารในชีวิตประจำวันเทอม 2ปี2553
วันจันทร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2554
แชทนานระวัง “บีบีวิชั่นซินโดรม”
เตือนสาวก”แบล็กเบอรี่ (Blackberry)“แช็ตถี่เป็นเวลานาน ระวังอาการนิ้วล็อค-ข้อมืออักเสบ หมอเผยปัจจุบันมีผู้มารักษามาก ระบุสาเหตุหนึ่งมาจากอาการติดบีบี จักษุแพทย์เผยเกิดโรค “บีบีวิชั่นซินโดรม”แล้ว วัยรุ่นรับเกิดอาการจริงหากใช้ต่อเนื่องบีบี (แบล็กเบอร์รี่) มือถือสุดฮิต ซึ่งขณะนี้เป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่นและกลุ่มคนวัยทำงาน โดยส่วนใหญ่นิยมใช้สื่อสารด้วยโปรแกรมแช็ตที่สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา และใช้ได้บ่อยครั้งตามที่ต้องการ วัยรุ่นและกลุ่มคนวัยทำงานจำนวนไม่น้อย ยอมรับว่าติดบีบีเป็นอย่างมาก บางคนต้องสนทนาผ่านตัวอักษรในบีบีทุก 5 นาที โดยการสนทนาในแต่ละครั้งสาวกบีบีต้องอาศัยการอ่านตัวหนังสือที่หน้าจอโทรศัพท์ซึ่งมีขนาดเล็ก และยังต้องอาศัยนิ้วกดแป้นตัวอักษรเพื่อสนทนาตอบโต้ ผลจากพฤติกรรมดังกล่าว เริ่มส่งผลกระทบต่อผู้ติดบีบีแล้ว
นพ.ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล เปิดเผย “มติชน” เมื่อวันที่ 12 กันยายน ว่า ปัจจุบันมีคนไข้ที่เข้ามารับการรักษาข้อมือ รวมทั้งรักษาอาการนิ้วล็อคเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาการดังกล่าวเกิดจากการใช้งานของนิ้วและข้อมือมาก สาเหตุความเสี่ยงของโรคอาจมาจากการพิมพ์งานนาน การทำกับข้าวหั่นหมู หั่นผัก และที่น่าเป็นห่วงมากๆ ในตอนนี้คือ การพิมพ์ข้อความทางโทรศัพท์ ขณะนี้มีคนไข้เข้ามารับการรักษาข้อมือ และนิ้วล็อควันละหลายสิบราย โดยเฉพาะผู้หญิงทั้งวัยรุ่นและวัยทำงาน
สาเหตุมีหลายอย่าง แต่ที่น่าห่วงคือ การใช้บีบีเพราะลักษณะการใช้งานของบีบี แป้นพิมพ์จะแคบและมีขนาดเล็กมากๆ ลักษณะการวางมือของผู้ใช้มีความลำบาก เมื่อผู้ใช้พิมพ์บ่อยๆ วันละหลายๆ สิบครั้ง อาจมีผลกระทบตามมาได้ เช่น มีอาการเอ็นข้อมืออักเสบ เวลากระดกนิ้วหัวแม่มือจะเกิดอาการเจ็บ ยิ่งใช้นานก็ยิ่งมีอาการเพิ่มขึ้น อย่างอาการเกร็งที่นิ้วตรงข้อต่อ ส่งผลให้บริเวณปลายนิ้วมีกระดูกปูดขึ้นมา เพราะมีหินปูนไปจับทำให้รู้สึกเจ็บ ส่วนบริเวณข้อมือ ตรงฝ่ามือจะมีพังผืด ถ้าใช้งานมากจะหนาตัวขึ้นและไปกดทับเส้นประสาททำให้มือชา นิ้วชา ทำให้เกิดอาการนิ้วล็อค บริเวณโคนนิ้วมือจะเจ็บ เวลากำหรือเหยียดจะลำบากในระยะแรก เมื่อปล่อยทิ้งไว้นานจะทำให้งอและเหยียดไม่ออก
นพ.ธีรวัฒน์กล่าวอีกว่า อาการที่เกิดขึ้นกับมือและข้อมือที่กล่าวมาข้างต้นนั้น หากยังใช้งานมากเกินไป ในทุกๆ วันจะเจ็บปวดมากจนถึงขั้นต้องรักษาด้วยการฉีดยา หรือถึงขั้นผ่าตัดในที่สุด ดังนั้น ควรลดการใช้งานของบีบีหากมีอาการเจ็บที่ปลายนิ้วมือตรงข้อต่อแสดงว่าใช้งานมากไป ควรลดลงหรือปรับท่าใช้งาน และป้องกันเบื้องต้นด้วยการยืดเหยียดมืออยู่เสมอ ยืดนิ้วมือ หรือข้อมือ และประสานมือเหยียดออกไป หากมีเวลาให้นำมือแช่น้ำอุ่นเพื่อผ่อนคลายบ้างก็เป็นการบรรเทาอาการดังกล่าว
ส่วนผลกระทบต่อสุขภาพจากการเล่นบีบีในด้านอื่นนั้น นพ.ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ จักษุแพทย์โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า กล่าวถึงอาการติดบีบีที่ส่งผลกระทบต่อสายตาว่า ขณะนี้มีโรค “บีบีวิชั่นซินโดรม” คือ การใช้สายตาเพ่งในสิ่งนั้นๆ นานเกิน 25 นาที จะทำให้ตาเกิดอาการล้า ปวดตา เมื่อยตา เนื่องจากแช็ตตลอดเวลา เพ่งไปที่ตัวหนังสือนานเกินไป ตาจะเริ่มแห้ง โดยเฉพาะแก้วตาดำจะแห้งจนมีอาการแสบ เคือง น้ำตาไหล และปวด อาการเหมือนโรคคอมพิวเตอร์ซินโดรม แต่ยังไม่มีรายงานทางแพทย์ว่าเกิดอันตรายจนถึงขั้นรุนแรง เพียงแค่จะแสบตา ปวดตา เมื่อนอนพักก็หายและควรเว้นระยะห่างหน้าจอกับสายตาในระยะที่มองได้ชัดที่สุด และไม่ควรแช็ตในที่มืดด้วย
ที่มา http://www.socialtrendy.com/
ภัยจากการคุยโทรศัพท์นานๆ
“ผู้ ที่ติดโทรศัพท์มือถืออย่างหนักก็จะยิ่งได้รับผลกระทบมาก และยิ่งมีโอกาสที่จะได้รับความเสี่ยงที่จะเกิดเนื้องอกระดับอันตรายโดยเฉพาะ ส่วนที่โทรศัพท์ติดกับศรีษะมากถึง 240% ทีเดียว” Kjell Mild หนึ่งในผู้ที่ทำการวิจัย กล่าว
“วิธีที่จะทำให้ความเสี่ยงลดลงก็คือการใช้แฮนด์ฟรีแทนการยกโทรศัพท์คุยแบบ ปกติ”
ไม่ว่าจะมีวิธีแก้หรือลดความเสี่ยงอย่างไร การรู้จัก “ความพอดี” ในการใช้โทรศัพท์มือถือน่าจะเป็นหลักสำคัญในงานวิจัยชิ้นนี้ได้ดีนัก เพราะไม่เพียงแต่ไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพแล้วยังไม่ต้องจ่ายค่าบริการ ที่มากตามไปด้วย คงจะไม่คุ้มนักที่จะต้องเสียเงินจ่ายทั้งค่าบริการโทรศัพท์และค่ารักษา สุขภาพควบคู่กัน เพียงแค่ต้องการคุยโทรศัพท์นานๆ
ประวัติสถานเอกอัครราชทูต
ในเบื้องต้น นายวิกรมฯ ได้เช่าบ้านเป็นที่ทำการสถานกงสุลและจ้างลูกจ้างท้องถิ่น จำนวน 2 คน ได้แก่ เสมียน 1 คน ทำหน้าที่รับงานติดต่อ และขับรถ-เรือ และคนสวน 1 คน ทำหน้าที่ทำสวน ภารโรง และยาม
ปี พ.ศ. 2496 และ พ.ศ. 2498 สถานกงสุลฯ ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นสถานอัครราชทูต และสถานเอกอัครราชทูต ตามลำดับ โดยมีพลจัตวา สมัย แววประเสริฐ เป็นอัครราชทูต และเอกอัครราชทูตคนแรก
ในปีงบประมาณ 2543 กระทรวงการต่างประเทศได้อนุมัติให้สถานเอกอัครราชทูตซ่อมแซมอาคารสถานเอกอัครราชทูตฯ ทั้งสามหลัง ซึ่งอยู่ในสภาพทรุดโทรม และสร้างโรงรถและเรือนพักขนาดย่อม ชั้นล่างเป็นคอนกรีต ชั้นบนเป็นไม้ เป็นที่พักของลูกจ้างของสถานเอกอัครราชทูตฯ ในวงเงินรวม 7,127,930 บาท โดยบริษัทสากล วิลเลจ (บริษัทของคนไทย จดทะเบียนในประเทศลาว) ได้รับคัดเลือกให้ดำเนินการ และได้ส่งมอบการซ่อมแซม และการก่อสร้างดังกล่าวให้แก่สถานเอกอัครราชทูตฯ เมื่อเดือนมีนาคม 2544
ห้องจัดเลี้ยงของทำเนียบเอกอัครราชทูต
ในเดือนกันยายน 2550 บริษัทโจและทินกรได้รับเลือกให้ตกแต่งภายในทำเนียบเอกอัครราชทูตใหม่ ซึ่งดำเนินการแล้วสำเร็จเมื่อกลางปี 2551
ที่มา: http://vientiane.thaiembassy.org/vientiane/th/embassy/embassy_history/
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)